หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555

วิธีการเลือกซื้อกีตาร์สำหรับผู้เริ่มต้น

ถ้าเราจะมีกีตาร์สักตัว เราต้องรู้อะไรบ้าง


ถ้าแบบกว้างๆก็คงมีประมาณนี้ก่อนนะครับ
1. รูปทรง ซึ่งมีมากมายเหลือเกิน ซึ่งในกีตาร์แต่ละทรงแต่ละแบบนั้นก็มักจะให้เอกลักษ์ของโทนเสียงต่างกัน

ไปแม้ จะไม่ใช่ทั้งหมดเพราะมีองค์ประกอบอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งรูปทรงแบบไหนดีสุดคงไม่มีคำตอบให้

ครับ เพราะบางทีมันก็อยู่ที่ความพอใจและความชอบของแต่ละบุคล
2. ยี่ห้อของกีตาร์ ซึ่งในสว่นนี้อาจมีความสำคัญสำหรับบางคนแต่อาจไม่ใช่สาระสำหรับบางคนเช่นกัน

ซึงถ้าเรามียี่ห้อที่ใช่อยู่ในใจแล้ว นั้นก็ทำให้เราสารถตีวงในการเลือกกีตาร์สักตัวมาคู่กายเราได้ง่ายขึ้น

แต่ถ้าท่านไม่ซีเรียสมากว่าต้องเป็นยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ท่านก็จะมีตัวเลือกที่มากมายเพิ่มขึ้นกับการหากีตาร์คู่ใจของ

ท่าน ซึ่งทั้ง2อย่างนี้ยืนอยู่บนพื้นฐานความพอใจของแต่ละบุคลครับ 

3. งบประมาณ ซึ่งอันนี้ผมว่ามีความสำคัญมาก เพราะมันคือตัวกำหนดเลยว่าท่านจะสามารถมีตัวเลือกได้มาก

แค่ไหน ยิ่งงบมีมาทางเลือกของท่านก็จะมากขึ้น แต่นั้นก็ไม่ได้ความว่าเรามีงบประมาณจำกัดแปลว่าเราจะไม่มี

ตัวเลือกนะครับ ถ้าเรารู้จักที่จะเลือกอย่างใช้สติ และคุ้มค่าเงินทุกบาทที่จ่ายไป 




ที่นี้ถ้าท่านมีข้อสรุปใน3ข้อข้างบนได้พอสมครวแล้ว ท่านก็คงจะพอมีกีตาร์สักตัวในใจที่เล็งใว้แล้ว



ที่นี้ก็มาถึงการดูรายละเอียดปลีกย่อยต่อไปครับ ซึ่งนั้นก็คือความถนัดในการเล่น เสียง และเช็คการทำงาน

ของอุปกรณ์ทั่วไปของกีตาร์

ซึ่งทั้งหมดข้างบนนี้ท่านเองละที่ต้องลอง ซึ่งมักมีอีกคำถาตามมาว่าเวลาไปลองกีตาร์เค้าลองอะไร อย่างไร

เพื่ออะไร ซึ่งผมจะกล่าวถึงพอเป็นข้อสังเกตุคร่าวๆนะครับ เพราะดว้ยรูปแบบของกีตาร์ที่หลายหลายเหลือเกิน

ผมคงไม่สามารถพูดถึงลายละเอียดปลีกย่อยได้ทั้งหมดนะครับ ไปลองกีตาร์เค้าลองอะไรกัน แล้วต้องเล่นเพลงอะไรหรือครับ


นี่เป็นอีกคำถามที่เจอบ่อยสำหรับน้องๆที่หัดเล่นกีต
าร์ ซึ่งอาจจะเป็นข้อกังวลใจของน้องๆบางท่านว่า

ไม่รู้จะเล่นอะไร เล่นไปก็อายเค้า ซื้อๆไปเลยหยิบและจ่ายเงินไปเลย แล้วค่อยกลับมาเล่นมาลองที่บ้านให้

ชุ่มใจ ซึ่งผมว่านั้นเป็นการกระทำที่ไม่ครวสักเท่าไรครับ เพราะถ้าท่านไม่ได้ลองหาข้อด้อย จุดเด่น

ความถนัด แล้วเมื่อท่านซื้อกลับมาบ้านแล้วมาพบเจอ นั้นคือปัญหาของท่านแล้วละครับที่ต้องมาทนกับปัญหา

ที่เกิดขึ้นจากกีตาร์ที่ท่านไม่ลองก่อนซื้อ เพราะฉะนั้นเมื่อมีโอกาศที่จะได้ลองกีตาร์ก่อนซื้อขอให้ลองไปครับ

การลองทดสอบเล่นกีตาร์ ที่เราจะซื้อไม่ได้หมายถึงเราต้องไปเล่นโชว์การปั่นการสวีฟ หรือเล่นเพลงยอดฮิต

หรอกครับจากข้างบนก็มาต่อครับหลังจากลองเล่ลองดีดแค่วัดความถนัดคร่าวๆแล้ว ลองเช็คในจุดอื่นๆของกีตาร์ครับ

ขั้นแรกลองเช็คว่าสายมีอาการติดเฟรทไหมเวลาดีดซึ่งทำง่ายๆโดยการกดที่ช่อง1สาย1 แล้วลองดีดดูว่าเสียง

ที่ออกมาเป็นไง มีเสียงที่สายกีตาร์กระแทกกับก้านเฟรทกีตาร์ไหม แล้วเสียงที่ได้มีความค้างยาว หรือหว้นสั้น

แบบใด ซึ่งถ้าเป็นปกติไม่มีปัญหาเสียงที่ได้ต้องมีความค้างยาวไม่ห้วนสั้นหรือมีเสียงสายตีกับก้านเฟรท

หลังจากนั้นก็ขัยบมากดที่ช่อง2สาย1 แล้วดีและฟังเสียงดูอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ขยับตำแหน่งกดไปเรื่องๆให้

ครบทุกช่องทุกสายครับ 

ปล. ถ้าในบางเฟรทที่ดีดแล้วเกิดเสียงสายกระทบเฟรท นั้นไม่ได้หมายถึงกีตาร์ตัวนั้นมีปัญหาเสมอไปนะครับ

เพราะถ้าอาการที่มีไม่มากมายเราสามารถปรับแต่งแก้ไขได้ง่ายๆครับหลังจากลองเช็คหาตำแหน่งบอดในคอกีตาร์แล้วที่นี้เรามาลองเช็คอุปกร์ต่างๆของกีตาร์ว่าใช้งานได้100%

เริ่มจากการเสียบกีตาร์เข้าแอมป์แล้วลองเล่นครับ เล่นเพื่ออะไรก็เพื่อเช็คการทำงานในส่วนต่างๆครับ

ขั้นแรกเลยของเช็คพวกปุ่มปรับค่าโทนและวอลลุ่มในตัวกีตารืครับ ว่าเมื่อเราหมุนใช้งานมันแล้ว

มันทำงานตามที่เราควบคุมไหม ลองดีดกีตาร์แล้วหมุนเพิ่มหรือลดวอลลุ่มกีตาร์ทีละนิดแล้วดีดเช็คไปเรื่อยๆ

ว่าเสียงกีตาร์ที่เราได้ยินมันดังเบา ตามจังหวะที่เราหมุนวอลลุ่มกีตาร์ไหม

แล้วก็มาลองเช็คที่ปุ่มปรับโทนของกีตาร์อีกทีโดยใช้วิธีการแบบเดียวกับการเช็คการทำงานของวอลลุ่มกีตาร์

แต่ทีนี้เราจะไม่ฟังความดังเบาของเสียงกีตาร์แต่เราจะเช็คว่าเมื่อหมุนปุ่มโทนของกีตาร์แล้วเสียงกีตาร์ที่เราได้

ยินการเปลี่ยนแปลงของโทนเสียงความทุ้มแหลม มากน้อยเพียงใดหลังจากนั้นก็มาลองเช็ค ปิ๊คอัพและซีเลคเตอร์นะครับ ซึ่งทั้งpuและซีเลคเตอร์มีกี่แบบอันนั้นคงไม่ขอกล่าวถึง

ครับเพราะมากมายเกินบรรยาย แต่ผมขอกล่าวถึงแค่การเช็คว่ามันทำงานเป็นปกติไหม เสียงเสียงรบกวนเวลา 

เราใช้งานอุปกรณ์พวกนี้ไหม 

ลองเล่นกีตาร์ไปแล้วลองสลับซีเลคเตอร์ขึ้นลงไปทีละนิดแล้วดีดไปเรื่อยๆนะครับ เช็คว่าในทุกตำแหน่งที่เรา

เลื่อนตำแหน่งซีเลคเตอร์ไป เสียงกีตาร์ที่ออกมา มันดังครบทุกตำแหน่งในการเลือกใช้งานไหม มีเสียงรบกวน

คอ๊กแค๊ก เวลาใช้งานไหม ซึ่งเสียงรบกวนนี้มักจะมาจากราบสกปรกที่ติดอยู่ตามหน้าสัมผัสของซีเลคเตอร์
ถ้ากีตาร์ตัวที่เราลองมีสวิชที่สามารถตัดคอยล์ของpu ได้ลองใช้งานมันดูแล้วฟังเสียงกีตาร์ว่ามีความเปลี่ยน

แปลงจากการใช้งานไหม

ปล.ในการลองเทสข้อนี้อย่าลืมหมุนเปิดวอลลุ่มและโทนของกีตาร์ด้วยนะครับ 
ที่นี้มาเช็คที่รูเสียบแจ็ค ลองเล่นแล้วขยับตรงจุดนี้ดูครับว่ามีเสียงกีตาร์ออกมาเต็มไหม มีเสียงรบกวนไหม

ซึ่งถ้ามีปัญหานั้นอาจหมายถึงรูแจ็คสว่นนี้ของกีตาร์มีปัญหาครับ
ย้อนกลับมาดูด้านบนกันบ้างที่นี้พูดถึงลูกบิดกีตาร์ ขั้นแรกลองใช้มือขยับและโยกที่ตัวลูกบิดดูว่า

แน่นหนาดีไหม และลองเทสตั้งสายดูว่า มีความเพี้ยนมากน้อยแค่ไหน โดยการเล่นและดีดกีตาร์ไปสักพัก

ลองดันสายขยี้สายกีตาร์สักครู่ ทีนี้ลองเล่นแบบจับคอร์ดดูแล้วฟังเสียงว่าเสียงกีตาร์ที่ได้มีความเพิ้ยนไหม

ซึ่งถ้าเพี้ยนจากที่เพิ่งตั้งสายใว้นั้นหมายถึงลูกบิดกีตาร์เรามีการคลายตัวครับ ซึ่งเป็นปัญหาให่ญสำหรับ

การเล่นเลยนะครับถ้าเราต้องคอยเล่นไปและตั้งสายไปทุกเพลง


ลองตรวจดูสภาพเฟรทว่าเป็นไงบ้างยิ่งถ้าเป็นกีตาร์มือ2 ยิ่งต้องดูในจุดนี้ว่าตัวก้านเฟรนมีสถาพดีไหม



ก้านเฟรทมีรอยหรือเปล่าความสึกของก้านเฟรทมากน้อยแค่ไหน ตรวจดู ด้านข้างของ

เฟรทที่ติดกับตัวฟิงเกอร์บอร์ดไหม ติดแน่นไหม มีสว่นไหนง้างขึ้นมาหรือไม่ หรือปลายก้านเฟรทด้านข้าง

ล้ำออกมาจากฟิงเกอร์บอร์ดไหม ลองเอามือรูปด้านข้างของฟิงเกอร์บอร์ด ทั่วคอกีตาร์ว่ามีอาการสะดุดในจุดที่

เป็นด้านเฟรทไหมตรวจสอบสภาพคอ โดยทำได้โดยจับกี่ก้นกีตาร์ยกขึ้นให้ได้ระดับสายตาแล้วให้ตัวกีตาร์ขนานกับพื้น

แล้วลองส่องดูว่าคอกีตาร์มีลักษณะบิดไหม ถ้าบิดนั้นถือว่าอาการหนัก เพราะการแก้ไขค่อนข้างยาก

และมีราคาพอสมครว กีตาร์ตัวไหมมีลักษณะคอบิดครวหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะกีตาร์มือ2ตรงจุดนี้ต้องเช็คให้

ครับ หลังจากดูว่าคอบิดไหม ทีนี้อีกครั้งว่าคอมีลักษณะ แอ่นหรือโค้งไหม ซึ่งตามปกติแล้วมันจะไม่เป็นเส้น

ตรงสักเท่าไรครับจะแอ่นเล็กน้อย ย้ำเพียงแค่เล็กน้อยนะครับ

ซึ่งอาการแอ่นหรือโค้งเล็กน้อยนี้สามารถเป็บแต่งได้ที่เหล็กขันคอกีตาร์ครับ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น